วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คลื่นยุคที่1-4

คลื่นยุคที่1-4

คลื่นลูกที่ 1 : ยุคเกษตรกรรม : Agricultural :อยู่ดีมีสุขเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
คลื่นลูกที่ 2 : ยุคอุตสาหกรรม : Industrial :แก่งแย่งชิงดี อิจฉา เอาตัวรอด
คลื่นลูกที่ 3 : ยุคข้อมูลข่าวสาร : Information Technology :ยึดติดถือดี ถ้าใช้ในทางที่ดีสร้างสรรค์ (วิวัฒน์) ถ้าใช้ในทางที่ไม่ดีทำลาย (วิบัติ)
คลื่นลูกที่ 4: ยุคเครือข่ายมวลชน : Human Network :ใครสามารถสร้างพลังมวลชนได้มากคนนั้นชนะ

คลื่นลูกที่ 1.ยุคเกษตรกรรม
อาชีพที่ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้นรับราชการ ดังที่เคยมีคำกล่าวว่า "สิบพ่อค้าไม่เท่าหนึ่งพยาเลี้ยง"
คลื่นลูกที่ 2.ยุคอุตสาหกรรม
- เริ่มจากการที่มนุษย์สามารถประดิษฐ์เครื่องจักร เครื่องกลต่างๆขึ้นมาได้
- อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆก็ถูกผลิตตามมา
- ยุคนี้มีโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
การเปลี่ยนแปลงทำให้อาชีพเก่าได้รับผลกระทบ
อาชีพเกษตรกร คนก็เปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นมากขึ้น
อาชีพช่าง ดีขึ้น
อาชีพแพทย์ ดีขึ้น
อาชีพราชการ ถูกลดความสำคัญลง
เศรษฐีที่เกิดขึ้นในยุคอุตสาหกรรม
คุณ ธนินทร์ เจียรวนนท์ เจ้าพ่อ CP ทำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมจนร่ำรวย
คุณ เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าพ่อเบียร์ช้าง ทำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมจนร่ำรวยเหมือนกัน
ข้อสังเกตุ คนที่ประสบความสำเร็จ คือคนที่รู้จักเลือกอาชีพได้สอดคล้องกับยุคสมัยนั้นๆ

คลื่นลูกที่ 3. ยุคสารสนเทศหรือข้อมูลข่าวสาร
- ยุคข้อมูลข่าวสารไร้พรมแดน
- ผู้คนทั่วโลกสามารถรับรู้เหตุการณ์ต่างๆได้พร้อมกัน
- เศรษฐกิจกระทบถึงกันหมดทั่วโลก
- อุปกรณ์สื่อสารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
- ยุคนี้คอมพิวเตอร์มีผลต่อการทำงานอย่างมาก
- งานไหนที่คอมพิวเตอร์ทำแทนคนได้ งานนั้นคนต้อง .....
- งานที่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำแทนคนได้ คือ งานฝีมือ , งานที่ต้องใช้ EQ ทำธุรกิจเอมสตาร์ ใช่ไหม ใช่แน่ๆเพราะเป็นงานที่ต้องใช้ EQ สูงมาก (แสดงว่างานนี้สอดคล้องกับยุคที่ 3)
เศรษฐีที่เกิดขึ้นในยุคนี้
บิลล์ เกตส์ เป็นมหาเศรษฐีจากการทำธุรกิจซอร์ฟแวร์
เศรษฐีของเมืองไทยที่เกิดขึ้นในยุคนี้ ก็มาจากการทำธุรกิจสื่อสาร (คงไม่ต้องบอกว่าใคร)

คลื่นลูกที่ 4. ยุคเครือข่าย
- การแข่งขันเชิงธุรกิจจะรุนแรงจนแข่งกันเจ๊ง
- ธุรกิจขนาดเล็กที่มีอำนาจต่อรองน้อย จะถูกบีบจากธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมมากกว่า วิธีปรับตัวเพื่อความอยู่รอดคือ สร้างพันธมิตร (รวมตัวกันเป็น เครือข่าย )
- เจ้าของกิจการที่ทำธุรกิจประเภทเดียวกันก็ต้องรวมกลุ่มเป็นเครือข่าย
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สภาวะน้ำมันแพง จะทำให้หน่วยงานต่างๆ ต้องลดจำนวนพนักงานลงเรื่อยๆ
- คนที่อยู่ได้จะต้องเก่งจริงและต้องทำงานหนัก

- ในอนาคตรูปแบบการจ้างงานมีแนวโน้ม ที่จะจ้างเป็นพนักงานชั่วคราว , ฟรีแลนซ์
- คนที่ทำงานกินเงินเดือนจะยิ่งรู้สึกถึง ความไม่มั่นคงของชีวิต (เพราะต้องทำงานหนักเกินค่าตอบแทน , ค่าครองชีพสูงจนเงินเดือนไม่
พอใช้ )
- คนที่ทำงานกินเงินเดือนจะถูกบีบให้ออกมาทำกิจการส่วนตัวโดยปริยาย แต่กิจการส่วนตัวที่จะอยู่รอดได้ต้องใหญ่และต้องครบวงจร( ซึ่งคนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ )
ดังนั้นงานที่จะสอดคล้องกับสภาพของยุคที่ 4 ก็คืองานประเภท
1. คนที่ มีความพร้อม เป็นผู้ ลงทุน (คนรวยอยู่แล้ว)
2. คนที่ ไม่อยากลงทุน เป็นผู้ ลงแรง ก็คือธุรกิจเครือข่าย (MLM)นั่นเอง
ดังบทความจาก Wall Street Journal นิตยสารที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอเมริกา ได้ทำนายไว้ว่า"ในอนาคต 75 % ของสินค้าและบริการทั้งหมดของโลกจะถูกขายผ่านกลไกของระบบ Network Marketing( การตลาดแบบเครือข่าย )"
J. Paul Getty ได้เขียนไว้ในหนังสือ How To Get Rich ว่า... กฎข้อแรกของความสำเร็จคือ
คุณต้องทำธุรกิจเพื่อตัวเอง เพราะคุณจะไม่มีทางร่ำรวย จากการทำงานให้กับคนอื่น

เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้าเรายังไม่ได้สร้างเครือข่ายอะไรไว้เลยรีบๆนะครับเดี๋ยวจะตกยุค และถ้าวันนี้เราเองทำธุรกิจเครือข่ายอยู่มั่นใจเลยครับว่าเรามาถูกทางแล้ว รีบๆทำให้สำเร็จครับ จะได้เป็นเศรษฐีกันถ้วนหน้า


http://a2cds.blogspot.com/2011/02/4.html

นางสาวอัมรินทร์  หงษ์นัย  บ.กจ. 3/2
     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น